"ล็อคตู้หรือปล่า?" คำถามเมื่อขับตามหลังรถบรรทุก
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2559 เวลา 18:53น.
ทุกครั้งที่ขับรถใกล้รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ มักจะอดคิดไม่ได้เสมอว่าตู้ขนาดใหญ่ที่เห็นตรงหน้าจะเอียงหล่นลงมาหรือไม่ เพราะจากประสบการณ์อุบัติเหตุตู้คอนเทนเนอร์หลุดจากตัวรถบรรทุก เกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา หากครั้งไหนที่สร้างความสูญเสียมาก ก็มักมีคำถามจากสังคมเกี่ยวกับการ"ล็อคตู้"
แต่เมื่อเวลาผ่านไป คำถามนั้นก็มักจะถูกลืม .. โดยทวิตเตอร์คุณ @SahTuainui ถ่ายรูปรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมสอบถามว่า "ตู้คอนเทนเนอร์สามารถดูตรงไหนได้ว่าล็อคหรือไม่ล็อค" จากนั้นไม่นานคุณ @mod_x และคุณ @mitrsp เข้ามาช่วยกันตอบ โดยสรุปได้ดังนี้ ตู้คอนเทนเนอร์ หรือตู้บรรทุกสินค้า ที่วางด้านหลังรถบรรทุก จะมีตัวล็อคที่ใช้ยึดระหว่างตู้คอนเทนเนอร์และรถบรรทุกไม่ให้ขยับ เรียกว่า Twist Lock จำนวน8ตัว ยึดอยู่4มุมด้านล่าง โดยหัวล็อคจะคล้ายหัวธนูรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า พอวางตู้ลงไปต้องเอามือบิดคันโยกให้หัวล็อคหมุน90องศา ตู้จึงจะล็อคอย่างถูกต้อง หากรถบรรทุกคันไหนไม่มีตัวล็อค หรือมีแล้วไม่ล็อค ผู้ประกอบการจะมีโทษปรับ50,000บาท และหากตู้คอนเทนเนอร์หล่นลงมา ก็ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย
เคยมีเสียงสะท้อนจากคนขับรถบรรทุกเล่าให้ฟังว่า มีคนขับจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ล็อคตู้ให้เรียบร้อยก่อนออกรถ เพราะความเร่งรีบในแต่ละวัน อีกทั้งยังมีความเชื่อที่ผิดว่า หากรถเอียงหรือเกิดอุบัติเหตุ ก็จะหล่นเพียงแค่ตู้ ส่วนตัวรถจะไม่พลิกตะแคงเสียหาย ไม่ต้องเสียเวลากู้หัวรถ และที่สำคัญบางครั้งผู้ที่สั่งให้ไม่ต้องล็อคตู้กลับเป็น"เถ้าแก่"เสียเอง ทั้งนี้หากดูขั้นตอนตั้งแต่การขนย้ายตู้ ที่ท่าเรือคลองเตย จะเห็นว่า มีรถบรรทุกเข้ามาต่อคิวรอรับตู้อย่างแออัดหลายพันคันต่อวัน ต้องใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการขนถ่ายตู้อย่างเป็นระบบ และเมื่อรับตู้เสร็จก็ต้องรีบเคลื่อนรถออกไปโดยละเลยการล็อคตู้ให้ถูกต้อง แม้เจ้าหน้าที่การท่าเรือฯจะพยายามกำชับก็ตาม หลายคนพยายามสังเกตขณะขับรถใกล้รถบรรทุกว่าที่รูกลมๆมุมล่างทั้ง 4 ของตู้มีตัวล็อคหรือไม่ แต่ที่จริงแล้วหากไม่เชี่ยวชาญจะคิดว่าไม่ล็อค เพราะสลักล็อคอยูด้านล่างและด้านในตู้ ต้องมองระยะใกล้ถึงจะสังเกตเห็น แต่คนคิดว่าไม่ล็อคเพราะยังเห็นเป็นรูกลมโบ๋ เพราะฉะนั้นอย่าเหมารวมว่าคนขับรถบรรทุกจะทำไม่ถูกไปเสียหมด คนที่รับผิดชอบก็ยังมี
แต่ทั้งหลายทั้งปวง ตราบใดที่บ้านเรายังไม่มีการตรวจตราอย่างจริงจังตั้งแต่ก่อนออกรถ ต้องรอเพียงการสุ่มตรวจตามท้องถนน หรือการจับปรับหลังเกิดอุบัติเหตุ เราในฐานะ"ผู้ร่วมทาง"ก็ไม่ควรประมาทในทุกกรณี หากเคราะห์ร้ายเกิดอุบัติเหตุ คุณอาจไม่เห็นแม้กระทั่งคนขับเลย